Skip to content
Switch off for healthier living
นัลลูรี่< 1 min read

ประโยชน์ของการล้างพิษจากดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย

อาชีพ & ที่ทำงาน o การดูแลตัวเอง o ประสิทธิภาพ & ผลการทำงาน

เราเข้าใจดีว่ามันฟังดูตลกที่คุณกำลังอ่านบทความเกี่ยวกับการลดการใช้อุปกรณ์… จากอุปกรณ์

จริง ๆ แล้ว ในแต่ละวัน เราจ้องมองหน้าจอไม่ว่าจอเล็กหรือใหญ่มากเกินไป ทั้งในการทำงานหรือเพื่อความเพลิดเพลิน มันไม่ใช่ความผิดของคุณ งานส่วนใหญ่จำเป็นต้องพบเจอกันผ่านจอ แต่แม้จะสามารถเลือกได้ เราก็ยังคงถูกดึงดูดไปหาอุปกรณ์แม้ในช่วงเวลาว่าง

ต่อไปนี้คือเหตุผลบางประการที่คุณควรพิจารณาวางอุปกรณ์ลงให้บ่อยขึ้น

  • คุณจะนอนหลับได้ดีขึ้น
    ถ้ามองย้อนกลับไป (ย้อนไปนานมาก!) ในยุคที่คนเราใช้เพียงพระอาทิตย์เป็นตัวบอกเวลาตื่นและเข้านอน เรามีนาฬิกาชีวภาพที่ดี ทำให้ร่างกายและจิตของเราได้พักผ่อนและฟื้นฟู แต่นั่นก็ถูกต้องแล้วเพราะยุคนั้นไม่มีอะไรให้ทำมากนักหลังอาทิตย์ตกและแสงสว่างก็มีน้อย  
    โลกยุคปัจจุบัน แสงจ้าจากหน้าจอหลอกให้ร่างกายของเราคิดว่ายังไม่หมดวันและเราก็ให้เวลานอนพักผ่อนน้อยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้สุขภาพและสุขภาวะของเราตกอยู่ในความเสี่ยง
    จริงอยู่ว่าปัจจุบันมีแว่นตาที่กรองแสงสีฟ้าได้ และโทรศัพท์ส่วนใหญ่ก็มี “โหมดกลางคืน” แล้ว  แต่การพักผ่อนที่ดีที่สุดขึ้นคือการวางอุปกรณ์ลงเมื่อใกล้หมดวันและให้ร่างกายค่อย ๆ ผ่อนคลายตามธรรมชาติเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น
  • คุณจะมีบทสนทนาแบบพบหน้าที่ดีขึ้น
    ถ้าการที่ใครเหลือบมองดูโทรศัพท์ขณะที่สนทนาด้วยกันอยู่เป็นเรื่องรบกวนคุณ คุณไม่ได้เป็นคนเดียวหรอกนะ  แค่การดูอย่างเร็ว ๆ ระหว่างพูดคุยอยู่ก็มากพอที่จะทำให้คุณตั้งคำถามว่าเขาสนใจคุยกับคุณจริงไหม หรือว่าคุณเป็นผู้สนทนาที่ทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมได้ไหม

    สำหรับการฝึกทักษะการรับฟังอย่างตั้งใจและสื่อสารเรื่องที่ต้องการถึงอีกผู้หนึ่ง ให้วางอุปกรณ์ลงในขณะที่คุณพูดคุยกับคนอื่น การขอพักสั้น ๆ เพื่อดูอุปกรณ์เป็นเรื่องที่ยอมรับได้มากกว่าการวอกแวกจากการสนทนาด้วยการแอบมอง
  • คุณจะมีความวิตกกังวลที่ลดลง (ในท้ายที่สุด)
    พวกเราส่วนใหญ่ติดนิสัยที่จะตรวจดูอุปกรณ์เพื่อเช็คอีเมล ข้อความ และการแจ้งเตือนแม้ว่าจะไม่มีเสียงเตือนว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงเข้ามา ความรู้สึกว่าต้องรีเฟรชดูมีอยู่ตลอด
    การย้ำคิดย้ำทำเป็นพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ ทำซ้ำ ๆ โดยคุณรู้สึกว่าจะต้องทำ และจะเห็นว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาเมื่อมันดูไม่สมเหตุสมผล อย่างเช่น คุณเพิ่งทำการเช็คโทรศัพท์ไปเมื่อ 1 นาทีที่แล้ว จะมีอะไรเปลี่ยนไปได้ในช่วงเวลาที่สั้นขนาดนั้น แต่คุณก็อดไม่ได้

    อย่างไรก็ตามการไม่เช็คยังทำให้เกิดความวิตกกังวล

    ความพยายามปิดเสียงแจ้งเตือนและจัดตารางเพื่อเช็คดูว่ามีอะไรอัปเดตล่าสุด เท่ากับเป็นการช่วยให้คุณหยุดนิสัยที่ไม่ดี และลดความวิตกกังวลได้เมื่อทำต่อเนื่องไป
  • คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของคุณได้
    คุณได้จดจ่ออยู่กับงานชิ้นเดียวล่าสุดเมื่อใด โดยปล่อยให้ตัวเองอยู่กับสิ่งนั้นจนกระทั่งเกิดความรู้สึกว่าคุณอยู่ในภาวะดำดิ่งแล้ว

    พวกเราส่วนใหญ่อาจปรารถนาที่จะไปสู่ภาวะดำดิ่งนี้ในขณะที่ทำงานโดยใช้อุปกรณ์ อยู่กับอุปกรณ์นั้น ไม่ให้อุปกรณ์อื่นทำให้คุณวอกแวกจากงานที่ทำอยู่ นั่นหมายถึงการดูภาพยนตร์โดยไม่ใช้มือถือ เขียนอีเมลโดยไม่เปิดทีวีไว้ ทำรายงานให้เสร็จโดยไม่เช็คการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ เลิกทำงานหลายอย่างพร้อมกัน การทำงานสลับไปมาจากงานหนึ่งไปอีกงานหนึ่งเป็นการทำให้เสียสมาธิ ทำให้เหนื่อยล้า และไม่ได้ผลตามที่ต้องการ ตอนนี้ได้เวลาที่จะตั้งใจทำงานเดียวจนจบและคุณจะเห็นว่าประสิทธิภาพของคุณเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยล่ะ
  • อาหารจะมีรสชาติดีขึ้น
    ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องมีมือถือวางบนโต๊ะตลอดเวลาในขณะที่รับประทานอาหารเผื่อว่าอาจมีข้อความเข้ามา หรือคุณชอบทานในขณะที่เปิดทีวีไว้ มีโอกาสที่คุณจะไม่ได้ดื่มดำกับการทานเท่าที่ควร และถ้าคุณวอกแวกในขณะทาน การรับรสและกลิ่นของคุณก็จะไม่เต็มที่ ทำให้มื้ออาหารนั้นลดความเพลิดเพลินไปอย่างมาก ครั้งหน้าที่คุณจะนั่งทานอาหาร ให้เวลาสักครู่ที่จะชื่นชมด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมด – ดูหน้าตาของอาหารในจานของคุณ วิธีการเสิร์ฟ กลิ่นเป็นอย่างไร อุณหภูมิอาหาร เนื้อสัมผัสและความคงตัว พยายามระบุกลิ่นและรสของอาหารแต่ละคำและพิจารณาว่าอาหารที่ทานเข้าไปช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายทั้งหมดอย่างไรบ้าง
  • คุณจะสามารถควบคุมน้ำหนักของคุณได้ดีขึ้น
    คุณอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการทานอย่างมีสติ ซึ่งก็คือการโฟกัสอาหารและความรู้สึกในการทานระหว่างมื้ออาหาร มีงานศึกษาระบุว่าเรามักจะไม่ทานอาหารมากเกินไปและมักจะรู้สึกพึงพอใจหลังจากทานอาหารแล้วถ้าเราไม่เจอเรื่องที่ทำให้วอกแวกและทำอะไรมากกว่าหนึ่งอย่างในขณะที่กำลังทาน ไอเดียก็คือให้อยู่กับปัจจุบันและรับรู้ถึงสัญญาณในร่างกายที่บ่งบอกว่าคุณทานมากพอแล้วและคุณจะได้ไม่ทานมากเกินไป
  • คุณจะมีพฤติกรรมที่เป็นต้นแบบให้กับลูก ๆ ของคุณ
    ถ้าคุณได้ทำให้ชีวิตของลูก ๆ ของคุณยากขึ้นด้วยการกำหนดเวลาการใช้อุปกรณ์ เป็นไปได้ว่าคุณก็ต้องทบทวนตัวเองด้วย

    คุณกำลังเป็นต้นแบบพฤติกรรมแบบที่คุณต้องการให้เขาเลียนแบบไหม เด็กมักทำตามที่คุณทำ ไม่ใช่ตามที่คุณพูด ดังนั้น ถ้าเขาเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะวางแท็บเล็ตลง ให้ประเมินดูว่าคุณอาจทำให้ดูเป็นตัวอย่างหรือไม่ ช่วงเวลาของครอบครัวที่ปราศจากอุปกรณ์จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความผูกพันและความทรงจำ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการเลิกนิสัยแย่และสร้างนิสัยที่ดี ให้ดูว่าอะไรเป็นแรงจูงใจภายใน และถ้าคุณต้องการซัพพอร์ต ติดต่อนัลลูรี่ได้เลย

อุปกรณ์ o ล้างพิษ o ประสิทธิภาพ 

 

บทความนี้ถูกนำเสนอโดยนักโค้ชสุขภาพจิตของ Naluri แพลตฟอร์ม Naluri เสริมให้คุณพัฒนานิสัยการดูแลสุขภาพที่ดี เรียบเรียงผลลัพธ์สุขภาพที่มีความหมาย และสร้างความเป็นสุขและสุขใจผ่านการโค้ชที่ประเมินและกำหนดเป้าหมายให้บุคคล โดยมีการเรียนรู้ที่ตั้งโครงสร้าง บทเรียนที่นำตัวเอง และเครื่องมือและอุปกรณ์ทางสุขภาพที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น ดาวน์โหลดแอป Naluri ได้ทันทีหรือติดต่อ hello@naluri.life เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการโค้ชและการรักษาดิจิตออนไลน์เพื่อเป็นคนที่มีความสุขและมีสุขภาพที่ดีขึ้น

You may also like