Skip to content
gratitude as medicine
นัลลูรี่< 1 min read

จัดการความเครียดและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยการฝึกให้รู้สึกขอบคุณ

ความคิดที่ว่าสภาวะจิตมีความเชื่อมต่อกับสภาวะกายของคุณเป็นที่พูดถึงในช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้ ตัวอย่างเช่น ทัศนคติลบและความรู้สึกสิ้นหวังและไร้อำนาจ สามารถก่อให้เกิดความเครียดเรื้อรังได้ โดยสามารถส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้สารเคมีทางสมองที่จำเป็นต่อความสุขลดลงไป และทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอทำให้ร่างกายเปราะบางต่อการถูกโจมตีจากไวรัสและเชื้อโรค เช่น ทำให้เป็นหวัดใหญ่หรือหวัดธรรมดา นอกจากนั้น รายงานการศึกษาที่เก็บข้อมูลจากชายและหญิงอายุ 25-74 ปีเปิดเผยว่าความเครียดสูงทำให้อายุคาดเฉลี่ยสั้นลง 2.8 ปี

ปัญหาทางกายภาพที่พบได้บ่อยโดยเชื่อมโยงกับสุขภาพจิตที่ขาดสมดุล ได้แก่:

  • ปวดหัว หรือปวดหลัง/คอ
  • ปวดท้อง ท้องผูก หรือท้องร่วง
  • มีความเปลี่ยนแปลงในความอยากอาหาร น้ำหนักตัวเพิ่มหรือลด
  • หัวใจเต้นแรง หรือความดันโลหิตสูง
  • เหนื่อยล้าหรือนอนไม่หลับ
  • เหงื่อออก หน้ามืด ปากแห้ง หรือหายใจติดขัด

แต่คุณสามารถหายจากความเจ็บป่วยทางกายและมีสุขภาพดีขึ้นด้วยการฝึกรู้สึกขอบคุณได้หรือไม่

สำหรับคนเริ่มต้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกได้ว่าความไม่สบายทางกายหรือสุขภาพที่แย่แท้จริงแล้วเกิดจากอาการทางจิตที่มีอยู่ของคุณหรือไม่ แม้กระทั่งถ้าคุณบอกแพทย์ว่าคุณคิดว่าอารมณ์ของคุณเป็นสาเหตุทำให้มีปัญหาสุขภาพกาย แพทย์อาจจะไม่ได้รับการฝึกอบรมให้สามารถระบุสาเหตุปัญหาจากอาการทางจิตได้อย่างถูกต้อง แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปช่วยระบุได้ว่าอะไรไม่ใช่สาเหตุและให้การรักษาตามอาการเพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้นทางกายภาพ ในขณะเดียวกันก็จะแนะนำให้คุณพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอย่างนักจิตวิทยาคลินิกหรือจิตแพทย์เพื่อระบุสิ่งที่ไม่ใช่สาเหตุหรือเพื่อระบุว่าสภาวะจิตของคุณมีผลทางกายภาพของคุณอย่างไรบ้าง

แล้วการรู้สึกขอบคุณช่วยคุณด้านสุขภาพได้อย่างไรบ้าง

การรู้สึกขอบคุณไม่ใช่ยาวิเศษที่จะเพิ่มระดับพลังงานและสุขภาพของคุณ ไม่ได้เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อให้คุณแข็งแรงขึ้น

ในทางตรงกันข้าม มีการแสดงให้เห็นว่าการพิจารณาเรื่องดี ๆ ของคุณในแต่ละวันช่วยทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มันช่วยทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น ช่วยให้หลับได้ดีขึ้น ช่วยระบบขับถ่าย และอาจจะถึงขั้นช่วยให้ปรับความคิดของคุณให้ชอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และอุดมไปด้วยสารอาหารมากขึ้นอีกด้วย

ในงานศึกษาชิ้นหนึ่ง หญิงสุขภาพดี 61 คน อายุระหว่าง 35-50 ปีได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมแสดงความรู้สึกขอบคุณหรือกิจกรรมเขียนข้อความทางออนไลน์เป็นเวลา 6 สัปดาห์ กลุ่มแสดงความขอบคุณได้รับหัวข้อสำหรับเขียนโดยกำหนดให้เขียนถึงคนที่เขารู้สึกขอบคุณ (ตัวอย่าง “ให้นึกถึงใครสักคนในชีวิตที่คุณรู้สึกว่ายังไม่ได้ขอบคุณอย่างเต็มที่หรืออย่างเหมาะสมสำหรับสิ่งที่เขาทำที่มีความหมายหรือมีความสำคัญสำหรับคุณ”) กลุ่มควบคุมเขียนหัวข้อทั่ว ๆ ไป (“ให้นึกถึงระยะทางในการเดินที่ยาวที่สุดของคุณในวันนี้”)

ก่อนและหลัง 6 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมงานศึกษาพูดถึงว่ามีแนวโน้มที่เขาจะให้หรือขอรับซัพพอร์ตจากผู้อื่นมากน้อยเพียงใด และให้ตัวอย่างเลือดเพื่อทดสอบการอักเสบของไซโตไคน์ (cytokines) ที่สัมพันธ์กับโรคเรื้อรังเกี่ยวกับความชรา เช่น เบาหวาน ภาวะหลอดเลือดแข็ง หรือแม้กระทั่งมะเร็ง 

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว นักวิจัยพบว่าผู้หญิงที่ถูกกำหนดให้ฝึกรู้สึกขอบคุณได้มีส่วนร่วมในการให้ซัพพอร์ตมากกว่า ซึ่งตรงกับความคิดที่ว่าการรู้สึกขอบคุณอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนอยากช่วยเหลือผู้อื่น แต่พวกเขาไม่ได้พบว่ามีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้พบว่าผู้หญิงในกลุ่มแสดงความรู้สึกขอบคุณมักจะมีความเครียดน้อยกว่า

ผลจากการศึกษายังได้ฝากคำถามไว้สำหรับนักวิจัยต่อไปว่า การแสดงความรู้สึกขอบคุณมีผลต่อสมองในการส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้หรือไม่

ยังมีการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานดิเอโก พบว่าคนที่รู้สึกขอบคุณมีปริมาณบริโภคไขมันที่ลดลง โดยลดลงมากถึง 25% นอกจากนั้น คนที่รู้สึกขอบคุณจะมีฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอลลดลง 23% และสามารถลดผลกระทบที่มีต่อความชราของสมองได้อีกด้วย

แม้ว่าการรู้สึกขอบคุณอาจจะไม่มีผลโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกัน แต่มันสามารถเพิ่มพูนสุขภาพของคุณได้จากการมีวิธีมองและความเข้าใจชีวิตทำให้ส่งเสริมอารมณ์เชิงบวกอื่น ๆ ที่มีผลที่ดีต่อสุขภาพโดยตรง

งานวิจัยเผยว่าเวลาที่เราคิดถึงเรื่องที่จะขอบคุณ ระบบประสาทพาราซิมพาเทติกหรือระบบประสาทส่วนทำให้สงบจะถูกกระตุ้นและจะทำให้เกิดประโยชน์เชิงปกป้องให้กับร่างกาย โดยรวมถึงระดับคอร์ติซอลที่ลดลงและอาจจะเพิ่มออกซิโทซินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการเชื่อมสายสัมพันธ์ที่ทำให้เรารู้สึกดีทั้งทางกายและจิต 

 

บทความนี้ถูกนำเสนอโดยนักโค้ชสุขภาพจิตของ Naluri แพลตฟอร์ม Naluri เสริมให้คุณพัฒนานิสัยการดูแลสุขภาพที่ดี เรียบเรียงผลลัพธ์สุขภาพที่มีความหมาย และสร้างความเป็นสุขและสุขใจผ่านการโค้ชที่ประเมินและกำหนดเป้าหมายให้บุคคล โดยมีการเรียนรู้ที่ตั้งโครงสร้าง บทเรียนที่นำตัวเอง และเครื่องมือและอุปกรณ์ทางสุขภาพที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น ดาวน์โหลดแอป Naluri ได้ทันทีหรือติดต่อ  เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการโค้ชและการรักษาดิจิตออนไลน์เพื่อเป็นคนที่มีความสุขและมีสุขภาพที่ดีขึ้น

You may also like