Skip to content
8 Simple Ways to Make Healthy Eating a Sustainable Habit
นัลลูรี่< 1 min read

ทำง่าย ได้ประโยชน์เยอะ: 8 วิธีเปลี่ยนการกินเพื่อสุขภาพให้ง่ายขึ้น

การกินอาหารเพื่อสุขภาพฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ก็แค่ต้องกินผักให้มากขึ้น ลดอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดื่มน้ำให้เพียงพอ แล้วก็ทำทั้งหมดนี้วน ๆ ไป แต่ในความเป็นจริงอาจไม่ได้ทำง่ายขนาดนั้นเสมอไปหากคุณมีตารางชีวิตที่ยุ่ง ไหนจะอาหารซื้อกลับบ้านที่ล่อตาล่อใจ แล้วยังมีขนมที่หยิบมากินเป็นระยะในระหว่างวันอีก

นอกจากนั้นก็ยังมีเสียงรบกวนไม่จบไม่สิ้นจากเทรนด์การลดน้ำหนัก อินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพ และกฎเกณฑ์เกี่ยวกับอาหารที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ก็ยิ่งทำให้ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือทำให้รู้สึกสับสนได้ง่ายๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น

แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องสุดโต่ง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ เราเพียงแค่ต้องปรับนิสัยการกินบางอย่าง เพื่อให้สามารถทำได้จริงและกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในที่สุด 

 

ทำไมการกินอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องยาก

เรามักคิดว่าการจะกินอาหารเพื่อสุขภาพก็แค่ต้องรู้ว่าต้องทำอะไร แต่ในความเป็นจริง ปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวเราทำให้การกินอาหารเพื่อสุขภาพเป็นเรื่องยากเย็นเกินกว่าที่ควรจะเป็นอย่างมาก

การกินอาหารเพื่อสุขภาพไม่ใช่แค่เรื่องของความตั้งใจหรือแรงจูงใจเท่านั้น แต่มันยังเป็นเรื่องของวิถีชีวิต สภาพแวดล้อน อารมณ์ รวมถึงการเข้าถึงอาหารของคุณ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลต่อเลือกกินอาหารของคุณทั้งนั้น โดยคุณมักไม่ทันได้สังเกตตัวเอง กว่าจะรู้ตัวอีกทีคุณก็กินมันฝรั่งทอดเข้าไปครึ่งถุงแล้วตอนห้าทุ่ม

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้การกินอาหารเพื่อสุขภาพเป็นเรื่องยาก

  • เวลาที่กำลังยุ่ง เรามักเลือกความสะดวกก่อน
  • คำแนะนำเรื่องโภชนาการมีหลายแบบไม่เหมือนกัน บางครั้งอาจทำให้สับสน
  • ความกดดันทางสังคมและวัฒนธรรมเกี่ยวกับการลดน้ำหนักทำให้รู้สึกว่าต้องกินอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่าง “สมบูรณ์แบบ” 
  • ทุน เวลา หรือการเข้าถึงอาหารแบบยังไม่แปรรูปอาจเป็นอุปสรรคที่แท้จริง
  • ความเครียด ความเหนื่อย และการกินอาหารตามอารมณ์เป็นอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้

แต่ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เป็น และคุณก็ไม่ได้ล้มเหลว การทำความเข้าใจอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างนิสัยการกินที่เหมาะสมและได้ผลกับตัวคุณ

กินอาหารเพื่อสุขภาพ vs วัฒนธรรมการลดน้ำหนัก

เมื่อเราพยายามที่จะสร้างนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ เราก็อาจจะติดกับของวัฒนธรรมการลดน้ำหนักได้ง่ายๆ ซึ่งก็คือการที่คุณค่าของเราถูกผูกเอาไว้กับรูปลักษณ์ภายนอกที่มองว่า ผอมหมายถึงสุขภาพดี ประสบความสำเร็จหมายถึงต้องยึดติดกับกฎเกณฑ์การกินที่เข้มงวดและสุดโต่ง

วัฒนธรรมการลดน้ำหนักเติบโตได้ด้วยความรู้สึกผิด ทางลัดในการลดน้ำหนัก และคำสัญญาว่าเพียงแค่คุณ “พยายามให้มากขึ้น” คุณจะทำได้ในที่สุด

แต่การกินเพื่อสุขภาพเป็นวิธีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่เรื่องของการลงโทษหรือข้อจำกัด มันเป็นเรื่องของอาหารบำรุงร่างกาย ความสมดุล และความเคารพต่อร่างกายตนเอง คือการเน้นที่สิ่งที่นำเข้ามาในชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่ต้องตัดออกไป คือความยืดหยุ่น การยึดตามความเป็นจริง และปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละคน ความชอบ และวิถีชีวิต

นี่คือตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างการกินเพื่อสุขภาพกับวัฒนธรรมการลดน้ำหนัก

TH 8 Ways to Make Healthy Eating Easier-1

การทราบถึงความแตกต่างระหว่างทั้งสองสิ่งนั้นมีความสำคัญ เพราะหากคุณติดอยู่ความคิดที่จะลดน้ำหนักตลอดเวลา คุณจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพได้

การกินเพื่อสุขภาพที่แท้จริง ไม่ได้มาพร้อมกับความรู้สึกละอาย ความรู้สึกผิด และไม่มีเส้นชัยเพราะมันคือความสัมพันธ์ระยะยาวกับอาหาร ที่มีไว้เพื่อสนับสนุนสุขภาพกาย อารมณ์ และจิตใจของคุณ

8 เคล็ดลับที่ช่วยให้กินอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง

  1. เริ่มจากกินปริมาณน้อย แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ: อย่าพยายามเปลี่ยนทุกอย่างในชั่วข้ามคืน ให้เริ่มทีละอย่างสองอย่าง เช่น เริ่มใส่ผักเข้าไปในอาหารวันละ 1 มื้อ หรือเปลี่ยนจากน้ำอัดลมเป็นน้ำเปล่า 
  2. วางแผนเกี่ยวกับอาหารแต่ละมื้อ (แค่คร่าว ๆ): การรู้ว่าเย็นนี้จะกินอะไรจะช่วยให้เราเลือกอาหารได้ดีกว่า และลดการกินแบบไม่ยั้งตามอารมณ์
  3. เก็บอาหารเพื่อสุขภาพไว้ในที่ที่มองเห็น: เรามีแนวโน้มจะกินสิ่งที่เรามองเห็นมากกว่า ดังนั้นจึงควรวางผลไว้บนเคาน์เตอร์ครัว เก็บผักที่หั่นแล้วไว้ในตู้เย็น และวางขนมที่อยากกินเอาไว้ในระยะที่มือเอื้อมถึง
  4. ไม่ควรตัดอาหารโปรดออก: การกินอาหารเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืนนั้นรวมถึงการกินอาหารที่คุณชอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม มันฝรั่งทอดชนิดแผ่น คุณไม่จำเป็นต้องเลิกกิน เพียงแค่ต้องกินอย่างมีสติและกินให้สมดุลกับอาหารชนิดอื่นๆ  
  5. อ่านฉลากโภชนาการ: เปลี่ยนตัวเองเป็นคนช่างสงสัยว่าในอาหารที่จะกินมีอะไรอยู่บ้าง การเข้าใจทั้งฉลากโภชนาการและส่วนผสมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล ไม่ใช่การตัดสินใจจากความกลัว
  6. อัปเกรดอาหารโปรด: คุณยังคงกินอาหารจานโปรดของคุณได้ แต่ให้ปรับอาหารเล็กน้อย เช่น เลือกการอบแทนการทอด เพิ่มผักในพาสต้า หรือเปลี่ยนจากขนมปังขาวเป็นขนมปังโฮลเกรนซึ่งไม่ขัดสี
  7. ฝึกการกินอย่างมีสติ: กินให้ช้าลง ลิ้มรสอาหารอย่างตั้งใจ และสังเกตว่าร่างกายรู้สึกอย่างไรหลังจากกิน วิธีนี้ช่วยลดการกินมากเกินไป และทำให้รู้สึกมีความสุขในการกินมากขึ้น
  8. โฟกัสที่ความก้าวหน้าไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ: ไม่มีวิธีการกินที่ “สมบูรณ์แบบ” เป็นเรื่องปกติที่จะมีทั้งวันที่ทำได้ดีและวันที่พลาด เพราะเราทุกคนก็เป็นมนุษย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือให้รีบกลับมาสู่นิสัยการกินเพื่อสุขภาพที่คุณกำลังสร้าง โดยไม่ต้องรู้สึกผิดหรือโทษตัวเอง

บทสรุป

การกินเพื่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือเคร่งครัดเกินไปถึงจะได้ผล สิ่งสำคัญคือการเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ที่ทำได้จริงและค่อย ๆ ทำเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยคุณอาจเลือกเคล็ดลับ 1-2 ข้อที่คุณรู้สึกว่าสามารถทำได้ไปลองทำในสัปดาห์นี้ แล้วค่อย ๆ ต่อยอดจากตรงนั้น 

ให้ลองสังเกตว่าร่างกายของคุณตอบสนองต่ออาหารแต่ละชนิดอย่างไร และสนุกไปกับกระบวนการบำรุงร่างกายด้วยสารอาหารที่เหมาะสม สุดท้ายแล้ว เป้าหมายไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ แต่คือความสม่ำเสมอในการเลือกวิธีการกินที่รู้สึกดี ช่วยเสริมพลังงานและอารมณ์ และเข้ากับชีวิตของคุณได้อย่างลงตัว

ตั้งแต่เรื่องการจัดการน้ำหนักไปจนถึงการนอนและการฟื้นฟูสุขภาพ โค้ชผู้มีประสบการณ์ของเรามุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายให้คุณเท่ากับที่คุณมุ่งมั่น สามารถจองการให้คำปรึกษาแบบส่วนตัวและเฉพาะบุคคลกับนักกำหนดอาหารและโค้ชฟิตเนสของ Naluri แล้วเริ่มต้นดูแลสุขภาพของคุณได้เลยตั้งแต่วันนี้